วันเสาร์ที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2552

" ปฐม คีตแห่งการเกิด " ที่มา - เนื้อเพลงปฐม

--------------------------------------------

" ปฐม " เรื่องราวหนึ่งของการเกิดในชีวิต ๑ ชีวิต

เราได้เรียนรู้จักการเกิด ตั้งแต่ในครรภ์มารดา ตลอดมา

ในทุกช่วงเวลาชีวิตตราบจนสิ้นลมหายใจ และนี่คือ

ประสบการณ์ทั้งหมดแห่งการเกิดของชีวิต

ที่ชื่อ ริค วชิรปิลันธิ์ ( ๑ - ๒๕ อายุวัย )

ซึ่งเป็นความชัดเจนที่เกิดขึ้นแล้วในทุกๆชีวิตดุจเดียวกัน



--------------------------------------------



เพลง., สังวาส

๑. ปรารถนาแห่งฉัน จุดประกายเริ่ม รักแห่งรักของใครใด

ที่ผ่านมานั้นไม่มีค่า...เท่าเธอ กับ เพศชายที่ฉันเลือกสรรเอาไว้

ด้วยพร้อมพรั่งเลือดกายและเชื้อชีวิต - เพื่อเสพสังวาส


๒. จมสู่แสงนวล งดงามปลอบไล้วิญญาณ - สิเน่หา

นำรักรุกล้ำทั่วสรรพางค์กาย โอบกอดอ้อมกายในกาย

รุกเร้าธาตุเชื้อเพื่อเธอ ฉุดรั้งจิตแท้ในเบื้องใต้

-ให้กรีดผ่านกำหนัดใคร่ เริงสู่ตัวตน

โอ้...สังวาส สุขสมสองยามสิ้นเขตแดนที่ต่างเพียรพยายาม ค้นหา...,

* สังวาส .. สังวาส .. สังวาส .. ศักดิ์สิทธิ์...

** เธอเข้ามาเพื่อเสพสิงสู่ในกายผู้ชาย

เธอถอดวิญญาณให้ฉันปรนเปรอพลังชีวิต เพิ่มพลังชีวิตในกายให้...

ผู้เสพเพลงสังวาส..รับหน้าที่ศักดิ์สิทธิ์..โอ้ ศักดิ์สิทธิ์เพื่อเสพ...

( เสพสังวาส )



เพลง สังวาส เขียนโดยในนาม ; วชิรปิลันธิ์(ผู้ที่มีสายฟ้าเป็นเครื่องประดับ)


สังวาส คือการเกิดของวิญญาณ ตามตำราแห่งตันตระ

ในขณะที่เสพสังวาส ดวงวิญญาณนั้นจะร่วมอยู่ในพิธีกรรมนี้ด้วย

หากวิญญาณนั้นเกิดกำหนัดในตัวหญิงผู้เป็นมารดา

ก็จะสร้างสัญลักษณ์เพศเป็นเพศชาย

หากวิญญาณนั้นเกิดกำหนัดในตัวชายผู้เป็นบิดา

ก็จะสร้างสัญลักษณ์เพศเป็นเพศหญิง

การสังวาส ไม่ได้มีค่าความหมายเพียงเท่านี้

แต่ยังมีความสำคัญยิ่งในการเลือกสรรจิตวิญญาณที่ดี

- ที่งดงามให้ได้กำเนิดขึ้นบนโลกนี้ และ การเสพสังวาส

ยังถือเป็นการผูกพันคู่ตรงข้ามไว้เพื่อช่วยส่งเสริม

- สมดุลในการใช้ชีวิตให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น สังวาสจึงเป็นพิธีกรรมศักดิ์สิทธ์

ที่มากกว่าความหมายของการเสพสมโดยสัญชาตญาณอย่างสัตว์โลก

เป็นการเกิด ” ครั้งแรก ” ของกายละเอียด

ก่อนที่กายเนื้อจะถือกำเนิดขึ้นในเวลาต่อมา

--------------------------------------------



เพลง., เทวี (Devi)

* โอม นมัสไชยะกาลี นมัสไชยะกาลี

๑. โอ้ วันทามเหสีศิวายะด้วยศรัทธาที่มี

ร่วมรำวงบูชาโศนิตปรียา - เพื่อมหาพิธี

โปรดเมตตารับเครื่องสังเวยบูชาอัคคี - ถวายโดยตัวข้าผู้ภักดี

** จากนี้.. ขอร่วมเริงระบำสรรเสริญพระทรุคา - กาลี

ตราบฟ้าสิ้นสุดแสงทิวา - รัตติกาล

๑.) อา...จิตข้าขอตั้งสัจจะอธิษฐาน

ชีพข้ารับใช้พระมาตา ขอพระพุทธธรรมนำชี้ทาง-ทางกลับบ้าน

๒.) อา..วัฏฏะเวียนว่าย ฤา..มีใครหลีกพ้น

จึงจากจรดุสิตา - ขอกราบลาชเนตตี...โอม

พูด : เทพธิดาแห่งสติปัญญา ,ความมั่งคั่ง และ พลังอำนาจ

พระแม่เจ้าของข้า., โปรดประทานพระพรอันเป็นสิริมงคล

แก่ผู้ที่ได้สัมผัสพระแม่ แม้เพียงเสี้ยวเล็กน้อยนี้

ตามความปรารถนาอันสมควรเถิด


เพลง.,เทวี เขียนโดยในนาม ; วชิรปิลันธิ์(ผู้ที่มีสายฟ้าเป็นเครื่องประดับ)


เทวี คือ การกำเนิดที่มาแห่งวิญญาณ ตามหลักในศาสนาฮินดูเชื่อว่า

มนุษย์นั้นเป็นอวตารหรือแบ่งภาคพลังงานชีวิตของพระผู้เป็นเจ้า

ดังนั้นมนุษย์แต่ละคนย่อมมีความผูกพัน อยู่แต่พระผู้เป็นเจ้า

ด้วยพลังชนิดใดชนิดหนึ่งซึ่งมักปรากฏด้วย

อุปนิสัยที่สอดคล้อง หรือ คล้ายคลึงกัน

การที่เราได้รับรู้ถึงพลังที่มาแห่งตนจึงเป็นเรื่องที่สำคัญยิ่ง

สำคัญเพื่อที่ว่าเราจะได้กระทำแต่คุณความดี หมั่นขจัดขัดเกลาอนุสัย

ให้สมควรแก่การกลับคืนสู่ที่มา เข้าใจในมายาภาพแห่งชีวิต

ทั้งหมดนั้นก็เพื่อมุ่งหมายอยู่ที่โมกษะ

หรือการเข้าถึง - กลับคืนสู่ที่มาของตนเอง

---------------------------------------------



เพลง., รำพึง

๑. แก้วตา., โอ้ - มณีงดงามของแม่

โยงใยให้เราได้ร่วมมีชะตาผูกพัน..ฉะนั้น

ลูกรัก..จงภูมิใจเถิด

ชีวิตที่เจ้าได้รับมาเป็นสังขารนั้นได้มาด้วยความยินดี

สร้างสรรค์มาด้วยพลังชักนำ...นานานานา....

๑.) โอ้...โอ้ ลูกน้อยเอย

เราร่วมกันเจ็บปวดกายนี้ - ด้วยวิญญาณปรีดา

เราต่างเริงระบำร่วมกัน - เราต่างเปิดประตูให้การเกิด

เพียงเพื่อผ่านความตายไปสู่ วัฏจักรชีวิตและแสงสว่าง.,

และที่นั่นที่เราจะได้..,

๒.) โอ้.......โอ้., พลังวาโยเคลื่อนลง

นำพาให้เจ้าได้มาใกล้พบช่องทาง อา...

ลูกรัก...เราเดินทางเข้าไปใกล้จุดหมาย - เรารอนแรมจวนถึง

โปรดซึมซับ - ความรักจนวินาทีสุดท้ายก่อนแยกกาย..จากไป

เราเจ็บด้วยเลือดกายแยกจากกัน

เราได้ผ่านความตายและเป็นหลุดพ้นสู่...วัฏจักร...นานานานา...



เพลง.,รำพึง เขียนโดยในนาม ; วชิรปิลันธิ์(ผู้ที่มีสายฟ้าเป็นเครื่องประดับ)


รำพึง คือ การกำเนิดของร่างกาย อันเป็นกายหยาบ

บอกเล่าถึงสภาวะของการให้กำเนิด เป็นช่วงเวลาที่สำคัญยิ่ง

ในขณะที่เด็กได้ถือกำเนิด เขานั้นก็ได้ตายลง

ในโลกของวิญญาณ – สำหรับมารดา ในสภาวะนี้เราจะเรียกนางว่า.,

“ มาตาเดวี ” ความสำคัญของนางประเสริฐสูงสุดดุจดั่งพระโลกมาตา

คือ " พระมารดาแห่งสามโลก "

ยามนี้ สตรีนั้นจะก้าวล่วงสู่ความตายในนามของหญิงสาว และ

จะถือกำเนิดขึ้นใหม่ในความสมบูรณ์พร้อมแห่งสตรีเพศ

ดังนั้นการให้กำเนิดทารกจึงเป็นช่วงเวลาที่ศักดิ์สิทธ์.,



ขอให้การร่ายรำนี้., จงเป็นพลังอันยิ่งใหญ่

ความหวังและความสุขแก่สตรี ผู้เป็นมารดาแห่งโลกทุกคน

จังหวะแห่งความปิติยินดีนี้ .,

ข้าขอใช้ต้อนรับการให้กำเนิดชีวิต และ วิญญาณบริสุทธิ์ทุกดวง

จงเต้นรำเถิด...สตรีเอย

ความปวดร้าวทางร่างกาย คือ ความสุขของวิญญาณ

จงร่ายรำเถิด...สตรีเอย เพราะนางประเสริฐสูงสุดแล้ว

ร่ายรำให้แก่ประตูแห่งการเกิด ..,

ร่ายรำให้แก่พลังสร้างสรรค์อันยิ่งใหญ่

ร่ายรำให้แก่อิสตรีผู้เสียสละ ..,

ร่ายรำให้แก่พลังชีวิตบริสุทธิ์

---------------------------------------------

เพลง., ครวญ

 ๑. หัวใจที่ไหม้เกรียมแห่งข้า., 

งดงามอยู่ในรอยบาปมลทินครั้งเก่า 

ข้ามีแต่เพียงความเหน็บหนาว เหน็บเกาะกุม

แทรกซึมอยู่ในทุกอณู สายตา., เลือดเนื้อ และ วิญญาณ 

* ความมรณานั้นครุวณาดั่งสายลม 

ช่วยปลอบปลุกเร้าชีวิตอยู่ ให้จำทนเพื่อถูกตราหน้าว่าร้าย 

ความทรมานนั้นดังกริชเสียบอยู่กลางหลังข้า 

เจ็บปวดเสียดแทงวิญญา 

โอ้..วิบากกรรม วิบากกรรม โอ้.,วิบาก ชดใช้ 

๒. และนี่คือหนทางที่ข้าเลือกแล้ว..,จากนี้ 

โอ้.,ไม่ โอ้.,ไม่มีใครช่วยฉุดรั้งชะตากรรมนี้ได้ 

ของกำนัลจากนรกถึงข้า 

คือ ความเจ็บปวดตรึงปีศาจเช่นข้า 

ให้วนเวียนอยู่กับการเฝ้าคอย 


** ให้ข้าชดใช้ให้สิ้นแล้วซึ่งเวรกรรมวิบาก 

และ ข้าไม่ขอความเมตตาจากสวรรค์แม้เพียงเสี้ยว - กรุณา 

ให้ข้าชดใช้ให้สิ้นสุดแล้วซึ่งเวรกรรมวิบาก 

ขอทุกข์เต็มชีวา เพื่อให้ข้าชดใช้เพียง., " เพียงชาติเดียว " 

*** กรีดเลือดสวดบทเพลงพราย 

สายน้ำเอย., สายเลือดร่ายระบำหลั่งไหล เรียงร้อยความตาย 

มาเถิดหนา.,มากลายเป็นสายน้ำ " อนธกาล " 

( พูด ) : " ข้าเริ่มต้นเย็บแผลที่ข้อมือซ้าย "

แต่เพียงชดใช้เพียงชาตินี้., แต่เพียง.,

ขอข้าชดใช้แต่เพียงชาตินี้., ชดใช้เพียงชาตินี้ 


เพลง., ครวญ เขียนโดยในนามอันปรากฏที่ชื่อ ; ธุมา ( ควัน )

1 ความคิดเห็น: