--------------------------------------------
" ปฐม " เรื่องราวหนึ่งของการเกิดในชีวิต ๑ ชีวิต
เราได้เรียนรู้จักการเกิด ตั้งแต่ในครรภ์มารดา ตลอดมา
ในทุกช่วงเวลาชีวิตตราบจนสิ้นลมหายใจ และนี่คือ
ประสบการณ์ทั้งหมดแห่งการเกิดของชีวิต
ที่ชื่อ ริค วชิรปิลันธิ์ ( ๑ - ๒๕ อายุวัย )
ซึ่งเป็นความชัดเจนที่เกิดขึ้นแล้วในทุกๆชีวิตดุจเดียวกัน
--------------------------------------------
เพลง., สังวาส
๑. ปรารถนาแห่งฉัน จุดประกายเริ่ม รักแห่งรักของใครใด
ที่ผ่านมานั้นไม่มีค่า...เท่าเธอ กับ เพศชายที่ฉันเลือกสรรเอาไว้
ด้วยพร้อมพรั่งเลือดกายและเชื้อชีวิต - เพื่อเสพสังวาส
๒. จมสู่แสงนวล งดงามปลอบไล้วิญญาณ - สิเน่หา
นำรักรุกล้ำทั่วสรรพางค์กาย โอบกอดอ้อมกายในกาย
รุกเร้าธาตุเชื้อเพื่อเธอ ฉุดรั้งจิตแท้ในเบื้องใต้
-ให้กรีดผ่านกำหนัดใคร่ เริงสู่ตัวตน
โอ้...สังวาส สุขสมสองยามสิ้นเขตแดนที่ต่างเพียรพยายาม ค้นหา...,
* สังวาส .. สังวาส .. สังวาส .. ศักดิ์สิทธิ์...
** เธอเข้ามาเพื่อเสพสิงสู่ในกายผู้ชาย
เธอถอดวิญญาณให้ฉันปรนเปรอพลังชีวิต เพิ่มพลังชีวิตในกายให้...
ผู้เสพเพลงสังวาส..รับหน้าที่ศักดิ์สิทธิ์..โอ้ ศักดิ์สิทธิ์เพื่อเสพ...
( เสพสังวาส )
เพลง สังวาส เขียนโดยในนาม ; วชิรปิลันธิ์(ผู้ที่มีสายฟ้าเป็นเครื่องประดับ)
สังวาส คือการเกิดของวิญญาณ ตามตำราแห่งตันตระ
ในขณะที่เสพสังวาส ดวงวิญญาณนั้นจะร่วมอยู่ในพิธีกรรมนี้ด้วย
หากวิญญาณนั้นเกิดกำหนัดในตัวหญิงผู้เป็นมารดา
ก็จะสร้างสัญลักษณ์เพศเป็นเพศชาย
หากวิญญาณนั้นเกิดกำหนัดในตัวชายผู้เป็นบิดา
ก็จะสร้างสัญลักษณ์เพศเป็นเพศหญิง
การสังวาส ไม่ได้มีค่าความหมายเพียงเท่านี้
แต่ยังมีความสำคัญยิ่งในการเลือกสรรจิตวิญญาณที่ดี
- ที่งดงามให้ได้กำเนิดขึ้นบนโลกนี้ และ การเสพสังวาส
ยังถือเป็นการผูกพันคู่ตรงข้ามไว้เพื่อช่วยส่งเสริม
- สมดุลในการใช้ชีวิตให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น สังวาสจึงเป็นพิธีกรรมศักดิ์สิทธ์
ที่มากกว่าความหมายของการเสพสมโดยสัญชาตญาณอย่างสัตว์โลก
เป็นการเกิด ” ครั้งแรก ” ของกายละเอียด
ก่อนที่กายเนื้อจะถือกำเนิดขึ้นในเวลาต่อมา
--------------------------------------------
เพลง., เทวี (Devi)
* โอม นมัสไชยะกาลี นมัสไชยะกาลี
๑. โอ้ วันทามเหสีศิวายะด้วยศรัทธาที่มี
ร่วมรำวงบูชาโศนิตปรียา - เพื่อมหาพิธี
โปรดเมตตารับเครื่องสังเวยบูชาอัคคี - ถวายโดยตัวข้าผู้ภักดี
** จากนี้.. ขอร่วมเริงระบำสรรเสริญพระทรุคา - กาลี
ตราบฟ้าสิ้นสุดแสงทิวา - รัตติกาล
๑.) อา...จิตข้าขอตั้งสัจจะอธิษฐาน
ชีพข้ารับใช้พระมาตา ขอพระพุทธธรรมนำชี้ทาง-ทางกลับบ้าน
๒.) อา..วัฏฏะเวียนว่าย ฤา..มีใครหลีกพ้น
จึงจากจรดุสิตา - ขอกราบลาชเนตตี...โอม
พูด : เทพธิดาแห่งสติปัญญา ,ความมั่งคั่ง และ พลังอำนาจ
พระแม่เจ้าของข้า., โปรดประทานพระพรอันเป็นสิริมงคล
แก่ผู้ที่ได้สัมผัสพระแม่ แม้เพียงเสี้ยวเล็กน้อยนี้
ตามความปรารถนาอันสมควรเถิด
เพลง.,เทวี เขียนโดยในนาม ; วชิรปิลันธิ์(ผู้ที่มีสายฟ้าเป็นเครื่องประดับ)
เทวี คือ การกำเนิดที่มาแห่งวิญญาณ ตามหลักในศาสนาฮินดูเชื่อว่า
มนุษย์นั้นเป็นอวตารหรือแบ่งภาคพลังงานชีวิตของพระผู้เป็นเจ้า
ดังนั้นมนุษย์แต่ละคนย่อมมีความผูกพัน อยู่แต่พระผู้เป็นเจ้า
ด้วยพลังชนิดใดชนิดหนึ่งซึ่งมักปรากฏด้วย
อุปนิสัยที่สอดคล้อง หรือ คล้ายคลึงกัน
การที่เราได้รับรู้ถึงพลังที่มาแห่งตนจึงเป็นเรื่องที่สำคัญยิ่ง
สำคัญเพื่อที่ว่าเราจะได้กระทำแต่คุณความดี หมั่นขจัดขัดเกลาอนุสัย
ให้สมควรแก่การกลับคืนสู่ที่มา เข้าใจในมายาภาพแห่งชีวิต
ทั้งหมดนั้นก็เพื่อมุ่งหมายอยู่ที่โมกษะ
หรือการเข้าถึง - กลับคืนสู่ที่มาของตนเอง
---------------------------------------------
เพลง., รำพึง
๑. แก้วตา., โอ้ - มณีงดงามของแม่
โยงใยให้เราได้ร่วมมีชะตาผูกพัน..ฉะนั้น
ลูกรัก..จงภูมิใจเถิด
ชีวิตที่เจ้าได้รับมาเป็นสังขารนั้นได้มาด้วยความยินดี
สร้างสรรค์มาด้วยพลังชักนำ...นานานานา....
๑.) โอ้...โอ้ ลูกน้อยเอย
เราร่วมกันเจ็บปวดกายนี้ - ด้วยวิญญาณปรีดา
เราต่างเริงระบำร่วมกัน - เราต่างเปิดประตูให้การเกิด
เพียงเพื่อผ่านความตายไปสู่ วัฏจักรชีวิตและแสงสว่าง.,
และที่นั่นที่เราจะได้..,
๒.) โอ้.......โอ้., พลังวาโยเคลื่อนลง
นำพาให้เจ้าได้มาใกล้พบช่องทาง อา...
ลูกรัก...เราเดินทางเข้าไปใกล้จุดหมาย - เรารอนแรมจวนถึง
โปรดซึมซับ - ความรักจนวินาทีสุดท้ายก่อนแยกกาย..จากไป
เราเจ็บด้วยเลือดกายแยกจากกัน
เราได้ผ่านความตายและเป็นหลุดพ้นสู่...วัฏจักร...นานานานา...
เพลง.,รำพึง เขียนโดยในนาม ; วชิรปิลันธิ์(ผู้ที่มีสายฟ้าเป็นเครื่องประดับ)
รำพึง คือ การกำเนิดของร่างกาย อันเป็นกายหยาบ
บอกเล่าถึงสภาวะของการให้กำเนิด เป็นช่วงเวลาที่สำคัญยิ่ง
ในขณะที่เด็กได้ถือกำเนิด เขานั้นก็ได้ตายลง
ในโลกของวิญญาณ – สำหรับมารดา ในสภาวะนี้เราจะเรียกนางว่า.,
“ มาตาเดวี ” ความสำคัญของนางประเสริฐสูงสุดดุจดั่งพระโลกมาตา
คือ " พระมารดาแห่งสามโลก "
ยามนี้ สตรีนั้นจะก้าวล่วงสู่ความตายในนามของหญิงสาว และ
จะถือกำเนิดขึ้นใหม่ในความสมบูรณ์พร้อมแห่งสตรีเพศ
ดังนั้นการให้กำเนิดทารกจึงเป็นช่วงเวลาที่ศักดิ์สิทธ์.,
ขอให้การร่ายรำนี้., จงเป็นพลังอันยิ่งใหญ่
ความหวังและความสุขแก่สตรี ผู้เป็นมารดาแห่งโลกทุกคน
จังหวะแห่งความปิติยินดีนี้ .,
ข้าขอใช้ต้อนรับการให้กำเนิดชีวิต และ วิญญาณบริสุทธิ์ทุกดวง
จงเต้นรำเถิด...สตรีเอย
ความปวดร้าวทางร่างกาย คือ ความสุขของวิญญาณ
จงร่ายรำเถิด...สตรีเอย เพราะนางประเสริฐสูงสุดแล้ว
ร่ายรำให้แก่ประตูแห่งการเกิด ..,
ร่ายรำให้แก่พลังสร้างสรรค์อันยิ่งใหญ่
ร่ายรำให้แก่อิสตรีผู้เสียสละ ..,
ร่ายรำให้แก่พลังชีวิตบริสุทธิ์
---------------------------------------------
เพลง., ครวญ
๑. หัวใจที่ไหม้เกรียมแห่งข้า.,
งดงามอยู่ในรอยบาปมลทินครั้งเก่า
ข้ามีแต่เพียงความเหน็บหนาว เหน็บเกาะกุม
แทรกซึมอยู่ในทุกอณู สายตา., เลือดเนื้อ และ วิญญาณ
* ความมรณานั้นครุวณาดั่งสายลม
ช่วยปลอบปลุกเร้าชีวิตอยู่ ให้จำทนเพื่อถูกตราหน้าว่าร้าย
ความทรมานนั้นดังกริชเสียบอยู่กลางหลังข้า
เจ็บปวดเสียดแทงวิญญา
โอ้..วิบากกรรม วิบากกรรม โอ้.,วิบาก ชดใช้
๒. และนี่คือหนทางที่ข้าเลือกแล้ว..,จากนี้
โอ้.,ไม่ โอ้.,ไม่มีใครช่วยฉุดรั้งชะตากรรมนี้ได้
ของกำนัลจากนรกถึงข้า
คือ ความเจ็บปวดตรึงปีศาจเช่นข้า
ให้วนเวียนอยู่กับการเฝ้าคอย
** ให้ข้าชดใช้ให้สิ้นแล้วซึ่งเวรกรรมวิบาก
และ ข้าไม่ขอความเมตตาจากสวรรค์แม้เพียงเสี้ยว - กรุณา
ให้ข้าชดใช้ให้สิ้นสุดแล้วซึ่งเวรกรรมวิบาก
ขอทุกข์เต็มชีวา เพื่อให้ข้าชดใช้เพียง., " เพียงชาติเดียว "
*** กรีดเลือดสวดบทเพลงพราย
สายน้ำเอย., สายเลือดร่ายระบำหลั่งไหล เรียงร้อยความตาย
มาเถิดหนา.,มากลายเป็นสายน้ำ " อนธกาล "
( พูด ) : " ข้าเริ่มต้นเย็บแผลที่ข้อมือซ้าย "
แต่เพียงชดใช้เพียงชาตินี้., แต่เพียง.,
ขอข้าชดใช้แต่เพียงชาตินี้., ชดใช้เพียงชาตินี้
เพลง., ครวญ เขียนโดยในนามอันปรากฏที่ชื่อ ; ธุมา ( ควัน )
" ปฐม " เรื่องราวหนึ่งของการเกิดในชีวิต ๑ ชีวิต
เราได้เรียนรู้จักการเกิด ตั้งแต่ในครรภ์มารดา ตลอดมา
ในทุกช่วงเวลาชีวิตตราบจนสิ้นลมหายใจ และนี่คือ
ประสบการณ์ทั้งหมดแห่งการเกิดของชีวิต
ที่ชื่อ ริค วชิรปิลันธิ์ ( ๑ - ๒๕ อายุวัย )
ซึ่งเป็นความชัดเจนที่เกิดขึ้นแล้วในทุกๆชีวิตดุจเดียวกัน
--------------------------------------------
เพลง., สังวาส
๑. ปรารถนาแห่งฉัน จุดประกายเริ่ม รักแห่งรักของใครใด
ที่ผ่านมานั้นไม่มีค่า...เท่าเธอ กับ เพศชายที่ฉันเลือกสรรเอาไว้
ด้วยพร้อมพรั่งเลือดกายและเชื้อชีวิต - เพื่อเสพสังวาส
๒. จมสู่แสงนวล งดงามปลอบไล้วิญญาณ - สิเน่หา
นำรักรุกล้ำทั่วสรรพางค์กาย โอบกอดอ้อมกายในกาย
รุกเร้าธาตุเชื้อเพื่อเธอ ฉุดรั้งจิตแท้ในเบื้องใต้
-ให้กรีดผ่านกำหนัดใคร่ เริงสู่ตัวตน
โอ้...สังวาส สุขสมสองยามสิ้นเขตแดนที่ต่างเพียรพยายาม ค้นหา...,
* สังวาส .. สังวาส .. สังวาส .. ศักดิ์สิทธิ์...
** เธอเข้ามาเพื่อเสพสิงสู่ในกายผู้ชาย
เธอถอดวิญญาณให้ฉันปรนเปรอพลังชีวิต เพิ่มพลังชีวิตในกายให้...
ผู้เสพเพลงสังวาส..รับหน้าที่ศักดิ์สิทธิ์..โอ้ ศักดิ์สิทธิ์เพื่อเสพ...
( เสพสังวาส )
เพลง สังวาส เขียนโดยในนาม ; วชิรปิลันธิ์(ผู้ที่มีสายฟ้าเป็นเครื่องประดับ)
สังวาส คือการเกิดของวิญญาณ ตามตำราแห่งตันตระ
ในขณะที่เสพสังวาส ดวงวิญญาณนั้นจะร่วมอยู่ในพิธีกรรมนี้ด้วย
หากวิญญาณนั้นเกิดกำหนัดในตัวหญิงผู้เป็นมารดา
ก็จะสร้างสัญลักษณ์เพศเป็นเพศชาย
หากวิญญาณนั้นเกิดกำหนัดในตัวชายผู้เป็นบิดา
ก็จะสร้างสัญลักษณ์เพศเป็นเพศหญิง
การสังวาส ไม่ได้มีค่าความหมายเพียงเท่านี้
แต่ยังมีความสำคัญยิ่งในการเลือกสรรจิตวิญญาณที่ดี
- ที่งดงามให้ได้กำเนิดขึ้นบนโลกนี้ และ การเสพสังวาส
ยังถือเป็นการผูกพันคู่ตรงข้ามไว้เพื่อช่วยส่งเสริม
- สมดุลในการใช้ชีวิตให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น สังวาสจึงเป็นพิธีกรรมศักดิ์สิทธ์
ที่มากกว่าความหมายของการเสพสมโดยสัญชาตญาณอย่างสัตว์โลก
เป็นการเกิด ” ครั้งแรก ” ของกายละเอียด
ก่อนที่กายเนื้อจะถือกำเนิดขึ้นในเวลาต่อมา
--------------------------------------------
เพลง., เทวี (Devi)
* โอม นมัสไชยะกาลี นมัสไชยะกาลี
๑. โอ้ วันทามเหสีศิวายะด้วยศรัทธาที่มี
ร่วมรำวงบูชาโศนิตปรียา - เพื่อมหาพิธี
โปรดเมตตารับเครื่องสังเวยบูชาอัคคี - ถวายโดยตัวข้าผู้ภักดี
** จากนี้.. ขอร่วมเริงระบำสรรเสริญพระทรุคา - กาลี
ตราบฟ้าสิ้นสุดแสงทิวา - รัตติกาล
๑.) อา...จิตข้าขอตั้งสัจจะอธิษฐาน
ชีพข้ารับใช้พระมาตา ขอพระพุทธธรรมนำชี้ทาง-ทางกลับบ้าน
๒.) อา..วัฏฏะเวียนว่าย ฤา..มีใครหลีกพ้น
จึงจากจรดุสิตา - ขอกราบลาชเนตตี...โอม
พูด : เทพธิดาแห่งสติปัญญา ,ความมั่งคั่ง และ พลังอำนาจ
พระแม่เจ้าของข้า., โปรดประทานพระพรอันเป็นสิริมงคล
แก่ผู้ที่ได้สัมผัสพระแม่ แม้เพียงเสี้ยวเล็กน้อยนี้
ตามความปรารถนาอันสมควรเถิด
เพลง.,เทวี เขียนโดยในนาม ; วชิรปิลันธิ์(ผู้ที่มีสายฟ้าเป็นเครื่องประดับ)
เทวี คือ การกำเนิดที่มาแห่งวิญญาณ ตามหลักในศาสนาฮินดูเชื่อว่า
มนุษย์นั้นเป็นอวตารหรือแบ่งภาคพลังงานชีวิตของพระผู้เป็นเจ้า
ดังนั้นมนุษย์แต่ละคนย่อมมีความผูกพัน อยู่แต่พระผู้เป็นเจ้า
ด้วยพลังชนิดใดชนิดหนึ่งซึ่งมักปรากฏด้วย
อุปนิสัยที่สอดคล้อง หรือ คล้ายคลึงกัน
การที่เราได้รับรู้ถึงพลังที่มาแห่งตนจึงเป็นเรื่องที่สำคัญยิ่ง
สำคัญเพื่อที่ว่าเราจะได้กระทำแต่คุณความดี หมั่นขจัดขัดเกลาอนุสัย
ให้สมควรแก่การกลับคืนสู่ที่มา เข้าใจในมายาภาพแห่งชีวิต
ทั้งหมดนั้นก็เพื่อมุ่งหมายอยู่ที่โมกษะ
หรือการเข้าถึง - กลับคืนสู่ที่มาของตนเอง
---------------------------------------------
เพลง., รำพึง
๑. แก้วตา., โอ้ - มณีงดงามของแม่
โยงใยให้เราได้ร่วมมีชะตาผูกพัน..ฉะนั้น
ลูกรัก..จงภูมิใจเถิด
ชีวิตที่เจ้าได้รับมาเป็นสังขารนั้นได้มาด้วยความยินดี
สร้างสรรค์มาด้วยพลังชักนำ...นานานานา....
๑.) โอ้...โอ้ ลูกน้อยเอย
เราร่วมกันเจ็บปวดกายนี้ - ด้วยวิญญาณปรีดา
เราต่างเริงระบำร่วมกัน - เราต่างเปิดประตูให้การเกิด
เพียงเพื่อผ่านความตายไปสู่ วัฏจักรชีวิตและแสงสว่าง.,
และที่นั่นที่เราจะได้..,
๒.) โอ้.......โอ้., พลังวาโยเคลื่อนลง
นำพาให้เจ้าได้มาใกล้พบช่องทาง อา...
ลูกรัก...เราเดินทางเข้าไปใกล้จุดหมาย - เรารอนแรมจวนถึง
โปรดซึมซับ - ความรักจนวินาทีสุดท้ายก่อนแยกกาย..จากไป
เราเจ็บด้วยเลือดกายแยกจากกัน
เราได้ผ่านความตายและเป็นหลุดพ้นสู่...วัฏจักร...นานานานา...
เพลง.,รำพึง เขียนโดยในนาม ; วชิรปิลันธิ์(ผู้ที่มีสายฟ้าเป็นเครื่องประดับ)
รำพึง คือ การกำเนิดของร่างกาย อันเป็นกายหยาบ
บอกเล่าถึงสภาวะของการให้กำเนิด เป็นช่วงเวลาที่สำคัญยิ่ง
ในขณะที่เด็กได้ถือกำเนิด เขานั้นก็ได้ตายลง
ในโลกของวิญญาณ – สำหรับมารดา ในสภาวะนี้เราจะเรียกนางว่า.,
“ มาตาเดวี ” ความสำคัญของนางประเสริฐสูงสุดดุจดั่งพระโลกมาตา
คือ " พระมารดาแห่งสามโลก "
ยามนี้ สตรีนั้นจะก้าวล่วงสู่ความตายในนามของหญิงสาว และ
จะถือกำเนิดขึ้นใหม่ในความสมบูรณ์พร้อมแห่งสตรีเพศ
ดังนั้นการให้กำเนิดทารกจึงเป็นช่วงเวลาที่ศักดิ์สิทธ์.,
ขอให้การร่ายรำนี้., จงเป็นพลังอันยิ่งใหญ่
ความหวังและความสุขแก่สตรี ผู้เป็นมารดาแห่งโลกทุกคน
จังหวะแห่งความปิติยินดีนี้ .,
ข้าขอใช้ต้อนรับการให้กำเนิดชีวิต และ วิญญาณบริสุทธิ์ทุกดวง
จงเต้นรำเถิด...สตรีเอย
ความปวดร้าวทางร่างกาย คือ ความสุขของวิญญาณ
จงร่ายรำเถิด...สตรีเอย เพราะนางประเสริฐสูงสุดแล้ว
ร่ายรำให้แก่ประตูแห่งการเกิด ..,
ร่ายรำให้แก่พลังสร้างสรรค์อันยิ่งใหญ่
ร่ายรำให้แก่อิสตรีผู้เสียสละ ..,
ร่ายรำให้แก่พลังชีวิตบริสุทธิ์
---------------------------------------------
เพลง., ครวญ
๑. หัวใจที่ไหม้เกรียมแห่งข้า.,
งดงามอยู่ในรอยบาปมลทินครั้งเก่า
ข้ามีแต่เพียงความเหน็บหนาว เหน็บเกาะกุม
แทรกซึมอยู่ในทุกอณู สายตา., เลือดเนื้อ และ วิญญาณ
* ความมรณานั้นครุวณาดั่งสายลม
ช่วยปลอบปลุกเร้าชีวิตอยู่ ให้จำทนเพื่อถูกตราหน้าว่าร้าย
ความทรมานนั้นดังกริชเสียบอยู่กลางหลังข้า
เจ็บปวดเสียดแทงวิญญา
โอ้..วิบากกรรม วิบากกรรม โอ้.,วิบาก ชดใช้
๒. และนี่คือหนทางที่ข้าเลือกแล้ว..,จากนี้
โอ้.,ไม่ โอ้.,ไม่มีใครช่วยฉุดรั้งชะตากรรมนี้ได้
ของกำนัลจากนรกถึงข้า
คือ ความเจ็บปวดตรึงปีศาจเช่นข้า
ให้วนเวียนอยู่กับการเฝ้าคอย
** ให้ข้าชดใช้ให้สิ้นแล้วซึ่งเวรกรรมวิบาก
และ ข้าไม่ขอความเมตตาจากสวรรค์แม้เพียงเสี้ยว - กรุณา
ให้ข้าชดใช้ให้สิ้นสุดแล้วซึ่งเวรกรรมวิบาก
ขอทุกข์เต็มชีวา เพื่อให้ข้าชดใช้เพียง., " เพียงชาติเดียว "
*** กรีดเลือดสวดบทเพลงพราย
สายน้ำเอย., สายเลือดร่ายระบำหลั่งไหล เรียงร้อยความตาย
มาเถิดหนา.,มากลายเป็นสายน้ำ " อนธกาล "
( พูด ) : " ข้าเริ่มต้นเย็บแผลที่ข้อมือซ้าย "
แต่เพียงชดใช้เพียงชาตินี้., แต่เพียง.,
ขอข้าชดใช้แต่เพียงชาตินี้., ชดใช้เพียงชาตินี้
เพลง., ครวญ เขียนโดยในนามอันปรากฏที่ชื่อ ; ธุมา ( ควัน )